Posted in

วิธีสร้าง USB ติดตั้ง MacOS Big Sur 11.2.3

ติดตั้ง macOS Big Sur 11.2.3 บน PC และ Notebook (Hackintosh)

หน้านี้รวบรวมขั้นตอนและเครื่องมือที่ใช้สำหรับติดตั้ง macOS Big Sur 11.2.3 บนทั้ง โน้ตบุ๊ก Acer Swift 3 SF314-52 และเครื่อง PC Desktop พร้อมตัวอย่างสเปกจริง ไฟล์ EFI ที่ใช้ และคลิปวิดีโอสอนทีละขั้น เหมาะสำหรับคนที่อยากลองทำ Hackintosh และใช้งาน Big Sur ในชีวิตประจำวัน หรือใช้เป็นเครื่องทดลองเพื่อศึกษา macOS เพิ่มเติม

เนื้อหาทั้งหมดมีทั้งส่วนของการสร้าง USB ติดตั้งด้วยเครื่อง Mac, การเตรียมเครื่อง Acer Swift 3 รุ่น Gen 7, และการติดตั้งบน PC ที่ใช้การ์ดจอ RX570 รวมถึงตัวอย่างการอัปเดตจาก Big Sur 11.0.1 ไปเป็น 11.2.2 ซึ่งโครงเดียวกันนี้สามารถประยุกต์ใช้กับ 11.2.3 ได้เช่นกัน

วิธีสร้าง USB ติดตั้ง MacOS Big Sur 11.2.3 (For Mac)

สำหรับคนที่มีเครื่อง Mac หรือ Hackintosh อยู่แล้ว การสร้าง USB Installer จาก macOS โดยตรงถือเป็นวิธีที่สะดวกและได้ไฟล์ติดตั้งที่ “สะอาด” ที่สุด ขั้นตอนหลัก ๆ คือการดาวน์โหลดตัวติดตั้ง Big Sur จาก App Store (หรือช่องทางที่ถูกต้องตามลิขสิทธิ์) แล้วใช้คำสั่งใน Terminal เพื่อสร้าง USB ติดตั้ง จากนั้นค่อยนำไปใส่ EFI ที่เตรียมไว้สำหรับเครื่องเป้าหมาย

ในคลิปด้านบนจะสอนตั้งแต่ดาวน์โหลดตัวติดตั้ง Big Sur, เตรียม Flash Drive, ใช้คำสั่งสร้าง USB Installer ไปจนถึงการคัดลอก EFI ลงในพาร์ทิชัน EFI ของแฟลชไดรฟ์ เหมาะสำหรับเอาไปใช้ติดตั้งทั้งบนโน้ตบุ๊กและ PC โดยเปลี่ยนเฉพาะ EFI ให้ตรงกับเครื่องของเรา

Spec : Acer Swift3-SF314-52

  • CPU : i5-7200u
  • RAM : 8Gb onboard
  • GPU : intel HD 620
  • SSD m.2 Sata 250Gb
  • Wifi+Bluetooth : DW1560
  • Audio : ALC255

Acer Swift 3 SF314-52 เป็นโน้ตบุ๊กบางเบาที่ใช้ซีพียู Intel Gen 7 (Kaby Lake) และกราฟิก Intel HD 620 ซึ่งถือว่า “เพื่อนซี้” ของ Hackintosh เลยก็ว่าได้ เพราะมีตัวอย่างการใช้งานบน macOS เยอะมาก ทั้งบน Catalina, Big Sur, Monterey ไปจนถึง Ventura เมื่อปรับค่า EFI ดี ๆ จะได้เครื่องที่ใช้งานทั่วไปได้ลื่นไหลพอสมควร

จุดสำคัญของเครื่องนี้คือการเปลี่ยนการ์ด Wi-Fi/BT มาเป็น DW1560 ที่ใช้ชิป Broadcom ทำให้ Wi-Fi และ Bluetooth ทำงานบน macOS ได้ใกล้เคียง Mac แท้ เช่น ใช้ Wi-Fi 5GHz ได้ เสถียรดี และรองรับอุปกรณ์เสริมหลายแบบ ส่วนชิปเสียง ALC255 ก็มี kext รองรับผ่าน AppleALC ทำให้ตั้งค่าไม่ยากมาก

เครื่องมือ/Tools. (Swift 3)

ชุดเครื่องมือด้านบนช่วยให้การสร้าง EFI และตรวจสอบความถูกต้องของ config ง่ายขึ้นมาก โดยสรุปการใช้งานคือ:

  • EFI Folder For Laptop Gen7 – เป็นตัวอย่าง EFI สำหรับโน้ตบุ๊ก Gen 7 ที่สามารถนำมาปรับใช้กับ Swift 3 ได้ โดยต้องเปลี่ยน Serial/SMBIOS ให้ตรงกับเครื่องเราเอง
  • Opencore Configurator – ใช้ช่วยแก้ไขไฟล์ config.plist ให้สะดวกขึ้น แต่อย่าลืมสำรองไฟล์ config เดิมทุกครั้งก่อนแก้ไข
  • Opencore Sanity Checker – ไว้เช็กว่าค่าใน config ของเราเข้ากับเวอร์ชัน OpenCore หรือไม่ มีอะไรผิดหรือขาดไปบ้าง
  • OC_Gen_X – ใช้ช่วยสร้างโครง EFI เริ่มต้นตามรุ่นซีพียู/แพลตฟอร์ม แล้วค่อยนำไปปรับต่อ

สำหรับมือใหม่ แนะนำให้เริ่มจากการใช้ EFI ตัวอย่างที่แปะลิงก์ไว้ แล้วค่อย ๆ ปรับแต่งทีละ部分 เช่น ข้อมูล SMBIOS, Serial Number, การเปิด/ปิด kext เพื่อให้เข้ากับเครื่องตัวเองมากที่สุด

ขั้นตอนการติดตั้ง PC

ในส่วนของ PC จะเป็นตัวอย่างการติดตั้ง macOS Big Sur 11.x บนเครื่อง Desktop ที่ใช้การ์ดจอ AMD RX570 และซีพียู Intel Xeon E3 ซึ่งถือเป็นสเปกยอดนิยมอีกชุดหนึ่งในสาย Hackintosh เพราะรองรับ Metal, ใช้งานกราฟิกและงาน Creator ได้ดี และหาของมือสองได้ไม่แพง

Install Hackintosh Big Sur 11.0 OpenCore & Fix Intel WiFi + Bluetooth

คลิปนี้จะพาเดินผ่านขั้นตอนติดตั้ง Big Sur บน PC ตั้งแต่การเตรียม BIOS, บู๊ตจาก USB, ฟอร์แมตดิสก์, ติดตั้งระบบ จนถึงการแก้ปัญหา Intel Wi-Fi และ Bluetooth ให้ใช้งานได้จริงบน macOS เหมาะสำหรับคนที่ใช้เมนบอร์ด/ซีพียูใกล้เคียงกับสเปกด้านล่างนี้

Spec : PC

  • MB : Gigabyte X150M-PLUS WS
  • CPU : Intel Xeon E3-1200 v5
  • RAM : 12 Gb (8×4) DDR4
  • VGA : RX570 8Gb
  • SSD : 240Gb SATA
  • LAN: Realtek@GbE LAN
  • W/B: Intel wifi/bluetooth

สเปกชุดนี้เหมาะสำหรับใช้เป็นเครื่องทำงานและเครื่องทดลอง Hackintosh เพราะการ์ดจอ RX570 รองรับ Big Sur ได้ดีมาก สามารถใช้เร่งฮาร์ดแวร์ในงานกราฟิก ตัดต่อวิดีโอ และงานที่ต้องใช้ GPU ได้สบาย ส่วนซีพียู Xeon E3-1200 v5 ก็อยู่ในกลุ่มที่รองรับ macOS ได้ไม่ยากเมื่อใช้ OpenCore ตั้งค่าถูกต้อง

เครื่องมือ/Tools. (PC)

โฟลเดอร์ EFI และ WiFi Kext ที่ให้ไว้จะใช้สำหรับเมนบอร์ดและสเปกใกล้เคียงกับตัวอย่างนี้เป็นหลัก ผู้ใช้ควร:

  • สำรอง EFI เดิมของตัวเอง (ถ้ามี) ก่อนทุกครั้ง
  • ปรับ SMBIOS ให้ตรงกับรุ่น Mac ที่เหมาะสม เช่น iMac หรือ Mac mini ตามกลุ่มซีพียู
  • ตรวจสอบเวอร์ชันของ kext ต่าง ๆ ให้รองรับ Big Sur 11.2.3 ก่อนใช้งานจริง

Update Big Sur 11.0.1 to 11.2.2 (PC)

การอัปเดตจาก Big Sur 11.0.1 ไปเป็น 11.2.2 / 11.2.3 บน Hackintosh สามารถทำได้คล้ายกับ Mac ปกติ แต่ต้องแน่ใจว่า:

  • EFI และ OpenCore รองรับเวอร์ชันใหม่แล้ว
  • kext ต่าง ๆ เช่น Lilu, WhateverGreen, VirtualSMC, AppleALC, IntelMausi, kext Wi-Fi/BT เป็นเวอร์ชันล่าสุด
  • มี USB ที่บู๊ตได้เก็บไว้เผื่อกรณีอัปเดตแล้วบู๊ตไม่ขึ้น

คลิปนี้สาธิตขั้นตอนอัปเดต Big Sur บน PC จริง ตั้งแต่การกดอัปเดตผ่าน System Preferences, การรอระบบดาวน์โหลดและติดตั้ง ไปจนถึงการเลือก “Installer” ที่ถูกต้องในหน้า OpenCore ระหว่างที่ระบบรีสตาร์ตหลายครั้ง ผู้ใช้สามารถประยุกต์วิธีนี้ไปใช้กับการอัปเดต 11.2.3 ได้เช่นกัน โดยหลักการคล้ายกัน

ปัญหาที่พบบ่อยบน Big Sur 11.x และแนวทางแก้เบื้องต้น

  • ค้างที่โลโก้ Apple / รีสตาร์ตวน – เปิดโหมด verbose (-v) เพื่อดูจุดที่ค้าง มักเกี่ยวกับ GPU, kext ขาด/เกิน, หรือ SMBIOS ไม่เหมาะสม
  • Wi-Fi/BT ไม่ทำงาน – เช็กเวอร์ชัน kext, ตรวจสอบว่าเปิดใช้งาน kext ตรงรุ่นหรือไม่ และดูว่าเปิด/ปิดใน config.plist ถูกตัวหรือยัง
  • ไม่มีเสียง – ตรวจ layout-id (alcid) ของ AppleALC ว่าตรงกับชิปเสียง (ALC255 หรือรุ่นอื่น) หรือไม่ บางบอร์ดต้องลองหลายค่า
  • Sleep แล้วไม่ตื่น / ตื่นแล้วดับ – มักเกี่ยวกับ USB map, การ์ดจอ หรืออุปกรณ์ต่อพ่วงบางตัว ให้ลองถอดอุปกรณ์ที่ไม่จำเป็นออกแล้วทดสอบใหม่

Big Sur 11.2.3 เหมาะกับใคร?

macOS Big Sur 11.2.3 ถือเป็นเวอร์ชันที่ค่อนข้างลงตัวสำหรับเครื่อง Intel หลายรุ่น โดยเฉพาะสเปกอย่าง Acer Swift 3 Gen 7 และ PC + RX570 ที่ใช้ในหน้านี้ เหมาะกับการใช้งานดังนี้:

  • ใช้เป็นเครื่องทำงานเอกสาร, งานออฟฟิศ, ท่องเว็บ, ดูสตรีมมิ่ง
  • ทดลองเวิร์กโฟลว์สาย Creator เบา ๆ เช่น แต่งรูป, วิดีโอสั้น, ทำกราฟิก
  • ใช้เป็นเครื่องทดลอง Hackintosh เพื่อเรียนรู้ OpenCore, kext, ACPI
  • แบ่งดิสก์ใช้คู่กับ Windows เพื่อสลับระบบตามงาน

สรุป

หน้านี้รวมตัวอย่างจริงของการติดตั้ง macOS Big Sur 11.2.3 ทั้งบนโน้ตบุ๊กและ PC พร้อมสเปก เครื่องมือ และคลิปสอนครบทุกขั้นสำหรับคนที่อยากลองทำ Hackintosh ด้วยตัวเอง หากคุณวางแผน สำรองข้อมูล และเตรียม EFI ให้ดี Big Sur จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีมากสำหรับการเรียนรู้โลกของ macOS บนฮาร์ดแวร์ที่เรามีอยู่แล้ว 🙂

Post Views: 42